เธอเป็นลูกแม่หรือไม่
เธอเป็นลูกแม่หรือไม่
โดย...เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
เธอเคยได้ยินใช่ไหม
ในทุกที่ทั่วทั่วไปและในหลายหลายหน
เขามักเรียกนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน
เคยรู้สึกสับสน สงสัย หรือไม่เคย
ทำไมต้อง "นักศึกษา" และ "ประชาชน"
นักศึกษาไม่ใช่คน หรือ เขาจึงเอ่ย
จำแนกแยกไว้ต่างหากจากคำอภิเปรย
จนเธอรู้สึกเฉยเฉยเป็นธรรมดา
แท้ที่จริงคำเหล่านี้มีความหมาย
มิใช่คำกล่าวง่ายง่ายไร้คุณค่า
เป็นคำเตือนให้ตระหนักในศักดิ์ฐานา
ว่านักเรียน นิสิต นักศึกษา ห่าใช่ "ประชาชน"
ประชาชนนั้นคือชนคนทำคนสร้าง
ผู้ลงแรงหักล้างและตั้งต้น
ทำแต่งานเท่านั้นที่บันดล
มือของคนผลักโลกเคลื่อนคือมือนี้
มือที่จับจอบจับไถมือไสกบ
มือที่เชิดชูพิภพให้มีค่ามีศักดิ์ศรี
ดินเป็นนา ป่าเป็นเมือง รุ่งเรืองทวี
คือมือของคนที่เรียกว่าประชาชน
เธอนักเรียนนิสิตนัศึกษา
คือผู้เรียนวิชา เรียนปัญญา เรียนเหตุผล
ก่อนที่ก้าวย่างไปตามทางแต่ละคน
สู่ความเป็นประชาชนอย่างเต็มตัว
ฐานะเธอจึงเป็นเช่นลูกน้อย
ประชาชนคือแม่ผู้คอยอยู่คุ้มหัว
โลกนี้สังคมนี้คือครอบครัว
วางหน้าที่ไว้ทั่วทั่วตามเท็จจริง
นักเรียนนิสิตนักศึกษาจึงมีอภิสิทธิ์
ที่ประชาชนได้อุทิศเป็นที่ยิ่ง
เธอคือลูกหลานประชาอย่าทอดทิ้ง
ต้องตระหนักในสิ่งนี้มีสำนึก
จงศึกษาเพื่อไปเป็นประชาชน
ไปตอบแทนบุญคุณล้นพ้นรู้สึก
อย่าเหินห่างวางท่าโอฬารพันลึก
และทึกทึกอยู่เหนือกว่าประชาชน
เช่นนั้นเธอคือคนผู้มีอภิสิทธิ์
มีชีวิตเหนือใครใครไปทุกหน
คนเช่นนี้ไม่ควรค่าคำว่าคน
เพราะเขาปล้นปวงประชาอย่างน่าละอาย
บัณฑิต...
เพียงเธอจะหยุดคิดถึงความหมาย
ก่อนจะถอดเสื้อครุยอันกรุยกราย
ทางข้างหน้าท้าทายและคอยเธอ
เธอจะเป็นอภิสิทธิ์ชน หรือ ประชาชน
มีหนทางอยู่สองหนให้เลือกเสมอ
ถ้าเธฮอลือกถูกก็เป็นลูกที่เลิศเลอ
น้ำตาแม่ก็จะเอ่อด้วยอิ่มใจฯ
เมื่อความเลวความร้ายกลายเป็นถูก
แลเมื่อลูกลูกของแม่ถูกเหยียดหยาม
ในท่ามกลางเสียงตะโกนก่อนประณาม
มีแวววามอันคมวันเจิดจับตา
แม่มองเห็นความกล้าที่ปรากฏ
ความแข็งแกร่งความทรหดแห่งหินผา
มือที่สัมผัสกับมือแม่เสมอมา
คือความกล้าของลูกทุกทุกคน!
โดย...เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
เธอเคยได้ยินใช่ไหม
ในทุกที่ทั่วทั่วไปและในหลายหลายหน
เขามักเรียกนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน
เคยรู้สึกสับสน สงสัย หรือไม่เคย
ทำไมต้อง "นักศึกษา" และ "ประชาชน"
นักศึกษาไม่ใช่คน หรือ เขาจึงเอ่ย
จำแนกแยกไว้ต่างหากจากคำอภิเปรย
จนเธอรู้สึกเฉยเฉยเป็นธรรมดา
แท้ที่จริงคำเหล่านี้มีความหมาย
มิใช่คำกล่าวง่ายง่ายไร้คุณค่า
เป็นคำเตือนให้ตระหนักในศักดิ์ฐานา
ว่านักเรียน นิสิต นักศึกษา ห่าใช่ "ประชาชน"
ประชาชนนั้นคือชนคนทำคนสร้าง
ผู้ลงแรงหักล้างและตั้งต้น
ทำแต่งานเท่านั้นที่บันดล
มือของคนผลักโลกเคลื่อนคือมือนี้
มือที่จับจอบจับไถมือไสกบ
มือที่เชิดชูพิภพให้มีค่ามีศักดิ์ศรี
ดินเป็นนา ป่าเป็นเมือง รุ่งเรืองทวี
คือมือของคนที่เรียกว่าประชาชน
เธอนักเรียนนิสิตนัศึกษา
คือผู้เรียนวิชา เรียนปัญญา เรียนเหตุผล
ก่อนที่ก้าวย่างไปตามทางแต่ละคน
สู่ความเป็นประชาชนอย่างเต็มตัว
ฐานะเธอจึงเป็นเช่นลูกน้อย
ประชาชนคือแม่ผู้คอยอยู่คุ้มหัว
โลกนี้สังคมนี้คือครอบครัว
วางหน้าที่ไว้ทั่วทั่วตามเท็จจริง
นักเรียนนิสิตนักศึกษาจึงมีอภิสิทธิ์
ที่ประชาชนได้อุทิศเป็นที่ยิ่ง
เธอคือลูกหลานประชาอย่าทอดทิ้ง
ต้องตระหนักในสิ่งนี้มีสำนึก
จงศึกษาเพื่อไปเป็นประชาชน
ไปตอบแทนบุญคุณล้นพ้นรู้สึก
อย่าเหินห่างวางท่าโอฬารพันลึก
และทึกทึกอยู่เหนือกว่าประชาชน
เช่นนั้นเธอคือคนผู้มีอภิสิทธิ์
มีชีวิตเหนือใครใครไปทุกหน
คนเช่นนี้ไม่ควรค่าคำว่าคน
เพราะเขาปล้นปวงประชาอย่างน่าละอาย
บัณฑิต...
เพียงเธอจะหยุดคิดถึงความหมาย
ก่อนจะถอดเสื้อครุยอันกรุยกราย
ทางข้างหน้าท้าทายและคอยเธอ
เธอจะเป็นอภิสิทธิ์ชน หรือ ประชาชน
มีหนทางอยู่สองหนให้เลือกเสมอ
ถ้าเธฮอลือกถูกก็เป็นลูกที่เลิศเลอ
น้ำตาแม่ก็จะเอ่อด้วยอิ่มใจฯ
เมื่อความเลวความร้ายกลายเป็นถูก
แลเมื่อลูกลูกของแม่ถูกเหยียดหยาม
ในท่ามกลางเสียงตะโกนก่อนประณาม
มีแวววามอันคมวันเจิดจับตา
แม่มองเห็นความกล้าที่ปรากฏ
ความแข็งแกร่งความทรหดแห่งหินผา
มือที่สัมผัสกับมือแม่เสมอมา
คือความกล้าของลูกทุกทุกคน!
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home